ททท.ตั้งเป้าปี 2568 นักท่องเที่ยวทะลุ 40 ล้านคน

ปีที่แล้วการท่องเที่ยวไทยถือว่าทำได้ดีมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยมากกว่า 35.44 ล้านคน สร้างรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท (โตขึ้น 34% จากปีก่อนหน้า) คนไทยเที่ยวในประเทศก็ไม่แพ้กัน มีมากถึง 198.69 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 9.5 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12.03%) ถึงแม้ว่ารายได้รวมยังไม่ถึงเป้าหมาย 3ล้านล้านมบทแต่ก็ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด
เนื้อหา
แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2568
การส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปีนี้มุ่งเน้นการจัดกิจกรรม และใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” รวมถึงการพัฒนาระบบการเดินทางและสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศด้วย
1.Grand Festivity
การจัดกิจกรรมใหญ่ตลอดทั้งปีเพื่อต่อยอดการท่องเที่ยว โดยมีการมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง เช่น การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะและการเดินทางระหว่างเมืองหลักและเมืองรอง เพื่อกระจายการท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ
2.Grand Moment
การนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ แบบ Very VIP ซึ่งตอบโจทย์นักท่องเที่ยวจากประเทศใหญ่ๆ เช่น จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย โดยการขยายเวลามาตรการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ เพื่อเพิ่มความสะดวกและการเข้าถึงที่ง่ายขึ้น
3.Grand Privilege
การรวมบริการช็อปปิ้ง แพ็กเกจทัวร์ ตั๋วเครื่องบิน และช่องทางการจ่ายเงินที่สะดวก โดยการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น เช่น โครงการลดค่าที่พัก 50% ในช่วงโลว์ซีซัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและกระตุ้นให้คนไทยออกไปเที่ยวมากขึ้น
4.Grand Invitation
การเชิญบุคคลระดับโลก มาเยือนประเทศไทยตลอดทั้งปี โดยการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ เช่น การแข่งขันกอล์ฟ LPGA โมโตจีพี วอลเลย์บอลเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ และซีเกมส์ ซึ่งถือเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและส่งเสริมการท่องเที่ยวจากการจัดกิจกรรมระดับโลก
5.Grand Celebration
การจัดงานเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลสงกรานต์ หรือเทศกาลอื่นๆ ที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนากฎหมายที่รองรับการท่องเที่ยวยุคใหม่ โดยการปรับกฎหมายเกี่ยวกับที่พักแบบโฮมสเตย์และ Airbnb ให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้นและสามารถแข่งขันในตลาดได้
วงการด้านการค้าปลีก ด้านโครงการ “อีซี่ อี-รีซีท (Easy E-Receipt)” จะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ 15 มกราคมถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยให้คนที่ต้องจ่ายภาษีใช้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จากร้านค้าที่มีระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt เพื่อนำมาลดหย่อนภาษีในปี 2568 ได้สูงสุด 50,000 บาท
โครงการนี้เริ่มหลังปีใหม่ ทำให้ผลกระทบช่วงปีใหม่อาจไม่เด่นเท่าไร แต่คาดว่าในช่วงตรุษจีน 2568 ซึ่งตรงกับวันที่ 29 มกราคมถึง 2 กุมภาพันธ์ การใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นและอาจสูงกว่า 5.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมากขึ้นกว่า 10% จากปีที่ผ่านมา
ส่วนการใช้จ่ายหลังปีใหม่ยังต้องรอติดตาม เพราะคนเพิ่งใช้เงินไปกับท่องเที่ยวและซื้อของขวัญในช่วงปีใหม่ แต่คาดว่าการใช้จ่ายจะเติบโตได้ และอาจมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 70,000 ล้านบาท
สำหรับใครที่สนใจแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศในย่านห้วยขวาง สามารถมาแลกเงินต่างประเทศง่าย ๆ กับ ACU Currency Exchange เดินทางมาแลกง่าย ๆ เพียงลง MRT ห้วยขวาง ทางออก 4 แล้วเดินตรงมา 500 เมตร จะเจอกับ สำนักงานใหญ่ ACU Building เลย
สามารถเช็กอัตราแลกเปลี่ยน ตามวัน-เวลาทำการ ได้ที่ https://acu-exchange.com/
หรือสั่งจองเงินล่วงหน้า ได้ที่ Line OA : https://lin.ee/ph4iznU
เปิดให้บริการ: ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 17.00 น.
ที่อยู่: 205/18 – 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
เบอร์โทร: 02-0021008, 061-0283918, 084-3244893
- แท็กยอดนิยม | ท่องเที่ยว
ผู้เขียน

ACU-Exchange
เรามีความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเงินตราที่ดีที่สุด และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการสูงสุด เพื่อตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ และคนต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ศึกษาต่อ หรือทำงานในประเทศไทย