วางแผนเงินล่วงหน้า ทริปจะไม่สะดุด

1. เปิดบัญชี เก็บเงินเที่ยว โดยเฉพาะ
การใช้บัญชีเดียวทั้งรับเงินเดือน จ่ายค่าใช้จ่าย และเก็บเงิน อาจทำให้คุณเผลอหยิบเงินเก็บมาใช้โดยไม่รู้ตัว ทางที่ดีควรเปิดบัญชีแยกสำหรับ “เงินเที่ยว” เพื่อให้เห็นยอดออมชัดเจนและรู้สถานะการเงินได้ทันที หากใกล้ถึงวันเดินทางแล้วยอดยังไม่ถึงเป้าหมาย ก็สามารถปรับแผนได้ทันเวลา

2. ออมก่อนใช้ เก็บเงินได้ง่ายกว่า
ออมก่อนใช้ เป็นกฎเหล็กของคนที่อยากเก็บเงินได้จริง เมื่อเงินเดือนออกให้หักเงินเข้าบัญชีออมทันที 10% ของรายได้ หรือถ้ายังไม่ไหว ลองเริ่มที่ 3–5% ก็ยังดีกว่าไม่ออมเลย วิธีนี้ช่วยป้องกันการใช้เงินเกินตัว และทำให้คุณมีเงินเหลือเก็บอย่างต่อเนื่องทุกเดือน

3. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
การออมจะง่ายขึ้นหากคุณรู้ว่าต้องเก็บ “เท่าไหร่” และ “เพื่ออะไร” ลองคำนวณค่าใช้จ่ายทริปคร่าว ๆ จากรีวิวและข้อมูลราคาที่พัก-ตั๋วเดินทาง แล้วตั้งเป้าหมายเงินออมให้เพียงพอ พร้อมเผื่อเงินเพิ่มอีกประมาณ 10% สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น หากต้องการงบเที่ยว 10,000 บาท ก็ควรตั้งเป้าไว้ที่ 11,000 บาท เพื่อความอุ่นใจ

4. จำกัดวงเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
การควบคุมรายจ่ายคือกุญแจสำคัญในการเก็บเงินเที่ยว ลองคำนวณวงเงินใช้จ่ายรายเดือน เช่น ใช้วันละ 250 บาท ก็เท่ากับเดือนละ 7,500 บาท หากเกินกว่านี้แปลว่าคุณใช้เงินเกินตัว และอาจกระทบกับแผนการออมได้

5. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
อยากออมเงินได้มากขึ้น? เริ่มจาก ตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยก่อน ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเพื่อดูว่าเงินไหลออกไปกับอะไรบ้าง แล้วลดหรือตัดสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น กาแฟแก้วแพง ของใช้ฟุ่มเฟือย หรือของที่ซื้อเพราะโปรโมชัน หากจำเป็นต้องซื้อจริง ๆ ให้รอช่วงลดราคา หรือใช้แต้มสมาชิก-บัตรเครดิตเป็นส่วนลด จะช่วยประหยัดเงินได้ไม่น้อย

6. ตั้งใจออมให้ถึงเป้าหมาย
สุดท้าย ความตั้งใจ คือสิ่งสำคัญที่สุด หากไม่เริ่มออมตั้งแต่วันนี้ เป้าหมายเที่ยวอาจไม่มีวันเป็นจริง ลองใช้ “ตารางออมเงิน” เป็นตัวช่วย โดยกำหนดจำนวนเงินที่ต้องออมในแต่ละวัน เช่น 10 บาท หรือ 50 บาท เพื่อให้การออมเป็นเรื่องง่ายขึ้น และยังช่วยสร้างวินัยทางการเงิน ซึ่งเป็นพื้นฐานสู่ความมั่นคงในอนาคต