ย้อนรอยอารยธรรมโบราณ กับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

เนื้อหา
กริชตูเรเดงโตร์ (Cristo Redentor), บราซิล
เป็นการสร้างประติมากรรมพระเยซูตั้งอยู่บนยอดเขากอร์โกวาดู ประเทศบราซิล สูงราว 38 เมตร โดยปอล ลันดอฟสกี ประติมากรชาวฝรั่งเศสเชื้อสายโปแลนด์เป็นผู้ออกแบบ และเอโตร์ ดา ซิลวา กอชตา วิศวกรชาวบราซิลดำเนินการสร้าง ใช้เวลาในการสร้าง 5 ปี โดยทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2474
ประติมากรรมนี้ถือเป็นอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของกรุงรีโอเดจาเนโร และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบราซิล มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้
ชีเชนอิตซา (Chichen Itza), เม็กซิโก
เป็นแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยชาวมายาในเขตวัฒนธรรมอเมริกัน ตั้งอยู่ในคาบสมุทรยูกาตัง รัฐยูกาตัง ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโก ชีเชนอิตซาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองจำนวนมากมายซึ่งพวกมายาได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้าผู้ทรงกระหายพระโลหิต
ลักษณะโดยทั่วไปของชีเชนอิตซา ทำเป็นรูปเหลี่ยมลดขั้นเป็นชั้น ๆ บนเนื้อที่ราว 6.4 ตารางกิโลเมตร มีบันไดกลาง วิหารที่ใหญ่สุดมีชื่อว่า วิหารแห่งนักรบ สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 หลังจากสร้างวิหารเก่าแห่งชักโมล ตรงกลางสร้างเป็นปราสาทเหลี่ยมทึบสูงขึ้นไป ซึ่งอยู่กลางเมืองที่สาธารณะและเป็นที่รวมของฝูงชน
โคลอสเซียม (Colosseum), อิตาลี
เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งลักษณะเป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ของโลกที่จุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี ลักษณะโครงสร้างอัฒจันทร์เป็นแบบวงกลมรี 4 ชั้น ภายในสนามปูด้วยหินปูน มีทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังขณะที่ฝนตก เป็นการออกแบบที่ชาญฉลาดมากในยุคนั้นทำให้ผู้ชมรู้สึกเข้าถึงนักกีฬา ถือว่าเป็นต้นแบบให้กับสนามกีฬาในยุคปัจจุบัน
ในอดีตสนามกีฬาแห่งนี้ถูกใช้เป็นสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของ “กลาดิเอเตอร์” นักสู้ชาวโรมันที่สร้างความบันเทิงให้แก่ผู้ชม ที่นั่งชมถูกแบ่งตามชนชั้นจากบนลงล่าง ตั้งแต่กษัตริย์ ขุนนาง ราชวงศ์ ชาวโรมันที่ร่ำรวย ประชาชนทั่วไป และข้าทาสที่ตั้งนั่งพื้น สนามกีฬาแห่งนี้จึงมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่นิยมแวะมาเที่ยวชม เพื่อซึมซับประวัติศาสตร์และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China), จีน
เป็นกำแพงที่มีป้อมคั่นเป็นช่วง ๆ ของจีนสมัยโบราณ กำแพงส่วนใหญ่ที่ปรากฏในปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัย ราชวงศ์ฉิน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการรุกราน กับอารยธรรมจีนในยุคต้นๆ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว (ราว 400 ปีก่อนคริสตกาล) เนื่องจากจะเข้ามารุกรานจีนตามแนวชายแดนทางเหนือ ในสมัยราชวงค์ฉิน ได้สั่งให้สร้างกำแพงหมื่นลี้ตามชายแดน เพื่อป้องกันพวกซยงหนูเข้ามารุกรานและพวกเติร์กจากทางเหนือ หลังจากนั้นยังมีการสร้างกำแพงต่ออีกหลายครั้งด้วยกัน แต่ภายหลังก็มีเผ่าเร่ร่อนจากมองโกเลียและแมนจูเรียสามารถบุกฝ่ากำแพงเมืองจีนได้สำเร็จ
กำแพงเมืองจีนยังคงเรียกว่า “กำแพงหมื่นลี้” สำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ประกาศเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ว่านักโบราณคดีได้ตรวจวัดความยาวของสิ่งก่อสร้างจากน้ำมือมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือ “กำแพงเมืองจีน” อย่างเป็นทางการนานร่วม 5 ปี ตั้งแต่ 2008-2012 และพบว่ายาวกว่าที่บันทึกไว้เดิมกว่า 2 เท่า หรือ 21,196 กิโลเมตร จากเดิม 8,850 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศ มีความเชื่อกันว่า หากมองเมืองจีนจากอวกาศจะสามารถเห็นกำแพงเมืองจีนได้ ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถมองเห็นจากอวกาศได้
เปตรา (Petra), จอร์แดน
คือนครหินแกะสลักโบราณที่ซ่อนตัวอย่างลึกลับในหุบเขาวาดี มูซา หุบเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเดดซีกับอ่าวอะกาบาในประเทศจอร์แดน นครนี้แต่เดิมนั้นเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี จนเมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท เดินทางผ่านมาพบเห็นเข้าเมื่อปี พ.ศ. 2355
นครเปตราได้รับลงทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยกล่าวอธิบายไว้ว่า “เป็นหนึ่งในสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมวลมนุษยชาติ” ปัจจุบันสามารถเดินทางเข้าไปโดยอาศัยม้าเท่านั้น
มาชูปิกชู (Machu Picchu), เปรู
หรือนิยมเรียกอีกชื่อว่า เมืองสาบสูญแห่งอินคา เป็นซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงในประเทศเปรู ที่ความสูงประมาณ 2,350 เมตร อารยธรรมแห่งนี้ได้ถูกลืมโดยคนภายนอกจนกระทั่งมีการค้นพบอีกครั้งโดยนักโบราณคดีที่ชื่อ ไฮแรม บิงแฮม เมื่อ พ.ศ. 2454 มาชูปิกชูเป็นหลักฐานที่สำคัญของจักรวรรดิอินคา ในปี พ.ศ. 2526 องค์กรยูเนสโกได้กำหนดมาชูปิกชูให้เป็นมรดกโลก โดยทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมไปศึกษาประวัติศาสตร์
ทัช มาฮาล (Taj Mahal), อินเดีย
เป็นการสร้างสุสานที่ใช้หินอ่อนสีขาวขนาดมหึมาสร้างขึ้นในอักกราในช่วงปี พ.ศ. 2174 – 2191 ตามคำสั่งของจักรพรรดิโมกุลชาห์จาฮาน ทัชมาฮาลแห่งนี้เป็นอัญมณีแห่งศิลปะมุสลิมในอินเดีย และเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ถูกขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโกปี พ.ศ. 2526 และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นความสำเร็จทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่เเละสวยงามที่สุดในสถาปัตยกรรมอินโด-อิสลามทั้งหมด
ทัชมาฮาลเปรียบเสมือนอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ถูกสร้างขึ้นจากความรักของสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ มาฮาล พระมเหสีของพระองค์ เพื่อใช้เป็นอนุสาวรีย์ฝังศพของพระมเหสีหลังจากสิ้นพระชนม์เพราะให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 ด้วยความโศกเศร้านี้ทำให้พระองค์สละราชสมบัติเพื่อสร้างทัชมาฮาลนานกว่า 22 ปี
การท่องเที่ยวสถานที่ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเปรียบเสมือนการย้อนเวลากลับไปสัมผัสอดีตอันรุ่งเรือง ชมสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอันงดงาม ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาในอดีต ประสบการณ์เหล่านี้จะเป็นส่วนเติมเต็มการท่องเที่ยวของเราให้สมบูรณ์แบบและน่าประทับใจยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่สนใจแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ที่ให้เรตราคาดี ในย่านห้วยขวาง สามารถมาแลกเงินต่างประเทศง่าย ๆ กับ ACU Currency Exchange เดินทางมาแลกง่าย ๆ เพียงลง MRT ห้วยขวาง ทางออก 4 แล้วเดินตรงมา 500 เมตร จะเจอกับ สำนักงานใหญ่ ACU Building เลย
สามารถเช็กอัตราแลกเปลี่ยน ตามวัน-เวลาทำการ ได้ที่ https://acu-exchange.com/
หรือสั่งจองเงินล่วงหน้า ได้ที่ Line OA : https://lin.ee/ph4iznU
เปิดให้บริการ: ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 17.00 น.
ที่อยู่: 205/18 – 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
เบอร์โทร: 02-0021008, 061-0283918, 084-3244893
- แท็กยอดนิยม | 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก, สิ่งมหัศจรรย์ของโลก, อารยธรรมโบราณ
ผู้เขียน

ACU-Exchange
เรามีความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเงินตราที่ดีที่สุด และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการสูงสุด เพื่อตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ และคนต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ศึกษาต่อ หรือทำงานในประเทศไทย