5 อาหารยุโรปสุดแปลก ที่รอให้คุณตักเข้าปากสักช้อน
เนื้อหา
คาซูมาร์ซู (Casu Marzu)
คาซูมาร์ซู ชีสรสโอชะแห่งอิตาลี เมื่อแปลตรงตัวแล้วจะแปลได้ว่า “ชีสเน่า” และเมื่อปี 2009 กินเนสส์บุ๊กเวิลด์เรคคอร์ดยังได้ประกาศให้เป็นชีสที่อันตรายที่สุดในโลกอีกด้วย มีรสชาติที่โดดเด่นคือ มีรสเค็ม เผ็ดเล็กน้อย
โดยทั่วไปแล้ว Casu Marzu จะผลิตในช่วงปลายเดือนมิถุนายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่นมแกะในท้องถิ่นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากพวกแกะเหล่านั้นกำลังเข้าสู่ช่วงสืบพันธุ์ และหญ้าในพื้นที่ก็เริ่มแห้งจากความร้อนของฤดูร้อน จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการทำชีสตามปกติ และทิ้งไว้นานประมาณ 3 เดือน เพื่อให้เกิดการสะสมให้เกิดการเน่าและดึงดูดในแมลงวันมาวางไข่ ปล่อยให้หนอนเข้าไปมุดเล่นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในก้อนชีส เพื่อเป็นการเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงแอบกลืนน้ำลายอยู่บ้าง คำถามสุดท้ายเลยคือ…กินได้เมื่อไหร่?
คำตอบของคำถามนั้นคือ เมื่อที่เนื้อสัมผัสของแป้งชีสที่นุ่มฟูผิดปกติ ถ้าแยกไม่ออกจริงๆ การลองกัดดูสักคำก็น่าจะได้คำตอบแล้ว(?)
แฮกกิส (Haggis)
ฮักกิสหรือแฮกกิส สิ่งนี้คือไส้กรอกชนิดหนึ่งที่อยู่ในประเทศสกอตแลนด์ โดยไส้กรอกนี้จะประกอบไปด้วยเครื่องในต่างๆ ของแกะ เช่นหัวใจ ตับ และปอดที่สับแล้วเข้ามาผสมกับข้าวโอ้ต หัวหอม และไขมันสัตว์ต่างๆ จากนั้นก็เพิ่มเครื่องปรุงรสต่างๆ เข้าไป
วีธีทำคร่าวๆ ของมันคือนำเจ้า Haggis ใส่ลงไปในหม้อหรือก็คือการเคี่ยวนั่นแหละครับ เคี่ยวเป็นเวลาหลายชั่วโมง ระวัง Haggis แตกด้วยล่ะ อีกวิธีนึงคือการอบ Haggis ในหม้อตุ๋นพร้อมน้ำได้อีกด้วย แต่โดยปกติแล้วเจ้า Haggis จะถูกขายในรูปแบบที่ถูกปรุงสุกมาก่อนที่จะนำมาขายอยู่แล้ว ดังนั้นแล้วแค่ทำให้มันร้อนเหมือนกับการที่เราต้มไข่ก็เพียงพอและพร้อมสำหรับการกินเจ้า Haggis นี้แล้ว
ในด้านรสชาติของมันมีลักษณะเหมือนกันไส้กรอกที่ซุยๆ มีเนื้อสัมผัสที่หยาบๆ คล้ายกับข้าวโอ้ตและมีกลิ่นตีจมูกนิดหน่อย ถือว่าเป็นประสบการณ์กินอาหารที่น่าสนใจมากๆ อีกเมนูหนึ่ง
เจลลี่ ปลาไหล (Jellied eels)
ปลาไหลเจลลี่ เป็นอาหารพื้นเมืองของชาว British มีต้นกำเนิดในช่วงศตวรรษที่ 18 ณ ตอนนั้น ปลาไหลเป็นแหล่งอาหารราคาถูก มีคุณค่าทางโภชนาการและหากินได้ง่ายจนได้กลายมาอาหารจานหลักของชาวลอนดอน ตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบัน ปลาไหลยุโรปกำลังอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ไปซะแล้ว เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไปคุณภาพของแม่น้ำต่างๆ เหมาะสมสำหรับปลาไหล และผู้คนก็พากันไปวางอวนดักกินเจ้าปลาไหลจนเกือบจะสูญพันธุ์นั่นเอง
ด้านการทำอาหาร เชฟจะใช้มีดสับเจ้าปลาไหลพวกนี้ออกเป็นชิ้นกลมๆ แล้วนำไปต้มในน้ำส้มสายชูเพื่อทำน้ำซุป ก่อนจะปล่อยให้เย็นลง โดยในระหว่างกระบวนการปรุง ปลาไหลจะปล่อยโปรตีนออกมาและเมื่อเย็นตัวลงเราจะเห็นเป็นเจลลี่รอบตัวมัน โดยวิธีการปรุงนี้สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการหรือสูตรของแต่ละคน
ในด้านรสชาติเองก็คล้ายกับกินขาหมูเย็นแต่เป็นเวอร์ชันปลาไหล (เป็นยังไงนะ ฮ่าฮ่า)
ตัวเนื้อเองจะมีรสหวานและกลิ่นหอมจากตัวปลาไหลที่มากกว่าปกติ กลมกล่อมแบบบอกไม่ถูก ไม่แปลกใจเลยที่เกือบสูญพันธุ์
เซอร์สตอรมมิ่ง (Surströmming)
เซอร์สตอรมมิ่ง ปลาร้าสวีเดนจากทะเลบอลติกสุดชุ่มฉ่ำ เชื่อว่าหลายคนคงเคยกินปลาร้าประเทศไทยจากแดนอีสานกันอยู่บ้าง แต่หารู้ไม่ว่าที่สวีเดนเองก็มีปลาร้าเหมือนกันนะ โดนปลาที่นำมาทำคือปลาเฮร์ริงบอลติก ที่สามารถจับได้ในน้ำกร่อยของทะเลบอลติก และจะจับก่อนฤดูวางไข่ในเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม
วิธีการทำเจ้าปลาร้าของเจ้าปลาตัวนี้คือการนำไปหมักในน้ำเกลือที่มีปริมาณเกลือมากพอที่จะไม่ให้เจ้าปลาเฮร์ริงดิบนั้นเน่าเปื่อยระหว่างปล่อยให้หมัก โดยจะมีจะกระบวนการหมักในกระป๋องยาวนานถึง 6 เดือนเป็นอย่างน้อย ทำให้ตัวปลามีรสเค็มและเปรี้ยวเล็กน้อย ด้านกลิ่นเองก็แรงใช่ย่อย ทั้งตัวกระป๋องที่ใช้หมักเองก็เกิดการบวมจากกระบวนการหมักอีกเช่นกัน และนั่นก็คือสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าสามารถเปิดทานหรือส่งออกขายได้เลย
อีกข้อควรระวังหนึ่งคือการห้ามนำขึ้นไปบนเครื่องบิน ทำไมน่ะเหรอ? แทนที่จะอธิบาย ให้คุณลองจินตนาการว่าเจ้ากระป๋องนี่เกิดบวมจนระเบิดออกมาจากแรงดันอากาศดูสิ เรียกได้ว่าหอมชื่นใจกันทั้งผู้โดยสารทั้งกัปตันเครื่องบินกันเลยทีเดียว
ไส้กรอกเลือดดำ (Black pudding)
พุดดิ้งสีดำ หรือไส้กรอกเลือดดำ ที่มีต้นกำเนิดมาจากสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์
ไส้กรอกนี้ทำมมาจากเนื้อหมูหรือเนื้อวัว ผสมกับไขมันหมูหรือไขมันวัว เครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆ และมัดรวมเข้าด้วยกัยกับข้าวบาร์เลย์หรือข้าวโอ้ต ซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่า จากนั้นก็ยัดใส่ในหนังเครื่องในแล้วจึงทำให้อุ่นด้วยการ ต้ม อบ ย่าง ทอด หน้าตาของมันจะเป็นเหมือนกันไส้กรอกแห้งที่ทานได้ทั้งแบบหั่นเป็นชิ้นหรือแบบบดในอาหารอื่นๆ สิ่งที่ผสมกันอยู่ภายในรวมถึงเครื่องเทศต่างๆ ทำให้เจ้า Black pudding นี้มีรสชาติหวานเล็กน้อย พร้อมทั้งมีความเผ็ดร้อนในคราวเดียวกัน
จากที่แนะนำไปเพื่อนๆ อยากลองกินเมนูไหนกันบ้างครับ ส่วนตัวคิดว่าเจ้า Black pudding อันสุดท้ายเนี่ย ดูปกติและดูน่าจะปลอดภัยที่สุดแล้ว คราวหน้าจะมีอาหารแปลกๆ จากโซนพื้นที่ไหนมาอีก สามารถติดตามได้ในเพจและเว็บไซต์ ACU Currency Exchange ได้เลย
สำหรับใครที่สนใจแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ที่ให้เรตราคาดี ในย่านห้วยขวาง สามารถมาแลกเงินต่างประเทศง่าย ๆ กับ ACU Currency Exchange เดินทางมาแลกง่าย ๆ เพียงลง MRT ห้วยขวาง ทางออก 4 แล้วเดินตรงมา 500 เมตร จะเจอกับ สำนักงานใหญ่ ACU Building เลย
สามารถเช็กอัตราแลกเปลี่ยน ตามวัน-เวลาทำการ ได้ที่ https://acu-exchange.com/
หรือสั่งจองเงินล่วงหน้า ได้ที่ Line OA : https://lin.ee/ph4iznU
เปิดให้บริการ: ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 17.00 น.
ที่อยู่: 205/18 – 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
เบอร์โทร: 02-0021008, 061-0283918, 084-3244893
- แท็กยอดนิยม | อาหารยุโรป, อาหารยุโรปสุดแปลก
ผู้เขียน
ACU-Exchange
เรามีความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเงินตราที่ดีที่สุด และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการสูงสุด เพื่อตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ และคนต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ศึกษาต่อ หรือทำงานในประเทศไทย
