บินสบาย ไร้กังวล! สแกนหน้าเข้าสนามบินไทยทั้ง 6 แห่ง ได้แล้ววันนี้

เนื้อหา
ระบบสแกนหน้า Biometric ในสนามบิน
ตอนนี้ AOT ได้ยกระดับการเดินทางผ่านสนามบิน ด้วยการนำเทคโนโลยี Facial Recognition ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) หรือ ระบบข้อมูลชีวมาตร มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสารลดขั้นตอนการรอคิว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และมอบประสบการณ์เดินทางที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นให้แก่ผู้โดยสารอีกด้วย ซึ่งการให้บริการนี้จะครอบคลุมท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
ปัจจุบันสนามบินชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลกได้เริ่มนำเอาระบบ Biometric นี้ มาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร เช่น สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์, สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สนามบินฮาร์ทสฟิลด์-แจ็คสัน เมืองแอตแลนตา ประเทศสหรัฐอเมริกา, สนามบินซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และสนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประเทศไทยนับว่าอยู่ในกลุ่มประเทศแรก ๆ ของโลกที่นำระบบนี้มาใช้ภายในสนามบินเช่นกัน
เริ่มใช้งานระบบสแกนหน้าเมื่อไหร่
ผู้โดยสารภายในประเทศสามารถใช้งานได้ก่อน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ระบบจะพร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ
สแกนหน้าเช็กอิน มีขั้นตอนอย่างไร
สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่
- เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน
ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบฯ จะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบฯ
- เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS)
โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้ว ให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก “Enrollment” จากนั้นสแกน barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบฯ จะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบฯ เช่นเดียวกัน
ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้วถือว่าผู้โดยสารได้ให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล ด้วยระบบดังกล่าว ทำให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยไม่ต้องพกพาสปอร์ตหรือบอร์ดดิ้งพาส เพียงแค่ใช้ใบหน้าแทนเอกสารในการเดินทางได้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ฝากกระเป๋า จนถึงการขึ้นเครื่องบิน
สำหรับใครที่สนใจแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศในย่านห้วยขวาง สามารถมาแลกเงินต่างประเทศง่าย ๆ กับ ACU Currency Exchange เดินทางมาแลกง่าย ๆ เพียงลง MRT ห้วยขวาง ทางออก 4 แล้วเดินตรงมา 400 เมตร จะเจอกับ สำนักงานใหญ่ ACU Building เลย
สามารถเช็กอัตราแลกเปลี่ยน ตามวัน-เวลาทำการ ได้ที่ https://acu-exchange.com/
หรือสั่งจองเงินล่วงหน้า ได้ที่ Line OA : https://lin.ee/ph4iznU
เปิดให้บริการ: ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 17.00 น.
ที่อยู่: 205/18 – 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
เบอร์โทร: 02-0021008, 061-0283918, 084-3244893
- แท็กยอดนิยม | สนามบินไทย
ผู้เขียน

ACU-Exchange
เรามีความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเงินตราที่ดีที่สุด และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการสูงสุด เพื่อตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ และคนต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ศึกษาต่อ หรือทำงานในประเทศไทย